top of page
ไอไดรฟ์แอทรังสิต-scaled.jpeg

หลักสูตรอบรม

อบรม5ชม.
อบรมต่ออายุ-1-scaled.jpeg

หลักสูตรอบรมใบขับขี่ 

ภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง

เป็นหลักสูตรจากกรมการขนส่งทางบก เหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์ขับรถ และต้องการสอบใบขับขี่เองที่ขนส่ง ไม่อยากเสียเวลารอคิวอบรมนาน หลักสูตรนี้เป้นหลักสูตรการอบรมใบขับขี่ภาคทฤษฎีสำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราว สำหรับคนที่ไม่ต้องการรอคิวอบรมที่ขนส่ง

ช่วยประหยัดเวลา สามารถมาอบรมที่โรงเรียนได้ การอบรมใช้เวลา 5 ชั่วโมง ค่าใช้จ่าย 500 บาท เนื้อหาในการอบรม ประกอบด้วยหัวข้อวิชาต่าง ๆ ดังนี้

  1. ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก กฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 1 ชั่วโมง 30 นาที

  2. การขับรถอย่างปลอดภัย จำนวน 2 ชั่วโมง

  3. จิตสำนึกและมารยาทในการขับรถ จำนวน 1 ชั่วโมง

  4. ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและการให้ความช่วยเหลือและปฐมพยาบาล จำนวน 30 นาที

  5. ทางโรงเรียนจะมีการติวข้อสอบ ให้ด้วย เปิดอบรมทุกวัน กรุณาโทรสอบถามเพื่อนัดเวลาก่อนล่วงหน้า 

เอกสารประกอบ คำขออบรมขับขี่

บัตรประจำตัวประชาชน

ใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 1 เดือน)

เป็นแบบ 2 ส่วน

หลักฐานประกอบคำขอบัตรประชาชนฉบับจริงพร้อมสำเนา

 

  • กรณีชาวต่างชาติให้ยืนใบสำคัญบัตรประจำตัวคนต่างด้าว

หรือหนังสือเดินทาง(PASSPORT) พร้อมสำเนา

  • กรณีชาวต่างชาติให้ยื่นใบสำคัญถิ่นที่อยู่หรือใบอนุญาตการทำงาน
    (WORK PERMIT) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ

ใบรับรองแพทย์ แสดงว่าผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน เป็นแบบชนิดใหม่ ที่เป็น 2 ส่วน 

 

ส่วนที่ 1 เป็นส่วนของผู้ขอรับใบรับรองแพทย์รับรองตนเอง 

ส่วนที่ 2 คือ ส่วนของแพทย์ที่เป็นผู้วินิจฉัย

ต่อใบขับขี่

อบรมต่อใบขับขี่ 

ภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง

เปิด อบรมต่อใบขับขี่ หรือ ต่ออายุใบอนุญาตขับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำหรับผู้ที่ต่ออายุ 5ปี ต่อ 5ปี สำหรับ (ใบอนุญาตขับรถยนต์ , จักรยานยนต์) จำนวน  1 ชั่วโมง และสำหรับรถบรรทุก รถพ่วง จำนวน 2 ชั่วโมง ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด เสาร์อาทิตย์ เมื่อผู้อบรม อบรมเสร็จทางโรงเรียนจะออกหนังสือรับรองให้ผู้อบรม ผู้อบรมสามารถนำหนังสือรับรองไปต่ออายุใบขับขี่ ที่ สำนักงานขนส่งทางบกได้ทั่วประเทศได้ทันที่ ผู้สนใจสามารถ จองคิวอบรมใบขับขี่ ได้ที่นี่  กรุณาโทรแจ้งก่อนเข้ามา

หลักสูตรที่เปิดอบรม

  • 1 ชั่วโมง สำหรับ (5 ปี ต่อ 5 ปี) รถยนต์ รถจักรยานยนต์

  • 2 ชั่วโมง สำหรับ (3ปี ต่อ 3ปี) รถที่ใช้เพื่อการขนส่งทางบก หรือ รถบรรทุก บ.2 ท.2

ประกอบด้วยหัวข้อวิชาต่าง ๆ ดังนี้

  1. การขับรถอย่างปลอดภัย

  2. มารยาทในการขับรถ อาทิ เช่น มีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทาง, ใช้ไฟสูงหรือไฟตัดหมอก เมื่อมีความจำเป็น, ไม่ควรเหยียบเบรกบ่อย, ไม่ควรขับรถจี้ท้ายรถคันหน้า, รู้จักขอบคุณและขอโทษเพื่อนร่วมทาง, เปิดไฟเลี้ยวทุกครั้ง เมื่อต้องการเปลี่ยนเลน, ไม่ปฏิบัติตา, เครื่องหมายจราจร , เมาแล้วขับ เป็นต้น

E-EXAM-scaled_edited.jpg
อบรมADR

อบรมขับรถขนส่ง
วัตถุอันตราย ADR

อบรมสอบท4

หลักสูตร อบรม ADR

วัตถุประสงค์การอบรม

การอบรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ขับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตราย ได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานขนส่งวัตถุอันตรายอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะการขนส่งในรูปแบบต่างๆ ที่สอดคล้องกับกฎระเบียบและมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด ซึ่งรวมถึง

  1. เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทและลักษณะของวัตถุอันตราย รวมถึงการจัดการวัตถุอันตรายในรูปแบบหีบห่อ บรรจุภัณฑ์ หรือการขนส่งวัตถุอันตรายแบบเทกอง

  2. เพื่อให้ความรู้ในการขนส่งวัตถุอันตรายในแท็งก์คอนเทนเนอร์ที่มีความจุน้อยกว่า 3,000 ลิตร, แท็งก์ยกและเคลื่อนย้ายได้, และภาชนะบรรจุก๊าซแบบกลุ่ม (MEGCs)

  3. เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการขนส่งวัตถุอันตรายในแท็งก์ที่ยึดติดไม่ถาวร หรือรถติดตั้งภาชนะบรรจุก๊าซแบบแบตเตอรี่ ที่มีความจุน้อยกว่า 1,000 ลิตร

  4. เพื่อเสริมสร้างทักษะในการขนส่งวัตถุอันตรายที่มีปริมาณเกินข้อกำหนดตามมาตรฐาน รวมถึงการขนส่งวัตถุอันตรายประเภท 1 (วัตถุระเบิด) และประเภท 7 (วัสดุกัมมันตรังสี)

  5. เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ขับรถมีความสามารถในการจัดการเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งวัตถุอันตราย

  6. เพื่อให้ผู้ขับรถมีความสามารถในการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งวัตถุอันตราย

ผู้ขับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตรายที่ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรขั้นพื้นฐาน ได้แก่

• ผู้ขับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตรายในรูปแบบหีบห่อ/บรรจุภัณฑ์ หรือรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตรายแบบแท็งก์

• ผู้ขับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตราย

  • ที่มีความจุน้อยกว่า 3,000 ลิตร สำหรับแท็งก์คอนเทนเนอร์ (Tank container) แท็งก์ที่ยกและเคลื่อนย้ายได้ (UN portable tanks) หรือภาชนะบรรจุก๊าซแบบกลุ่ม (Multiple-Element Gas Cylinders; MEGCs)

  • ที่มีความจุน้อยกว่า 1,000 ลิตร สำหรับแท็งก์ที่ยึดติดไม่ถาวร (Demountable tanks) หรือรถติดตั้งภาชนะบรรจุก๊าซแบบแบตเตอรี่ (Battery vehicles)

• ผู้ขับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตรายที่ขับรถขนส่งวัตถุอันตรายในรูปแบบแท็งก์ที่มีความจุเกินกว่าที่กำหนดไว้ตาม 1.2 รวมทั้งที่ขับรถขนส่งวัตถุอันตรายประเภทที่ 1 วัตถุระเบิด หรือวัตถุอันตรายประเภทที่ 7 วัสดุกัมมันตรังสี จะต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรขั้นพื้นฐาน

อบรมADR

หลักสูตร แท้งค์

การอบรมหลักสูตรพิเศษสำหรับการขนส่งวัตถุอันตรายในรูปแบบแท็งก์มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ขับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตรายได้รับความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ดังนี้:

  1. เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการขนส่งวัตถุอันตรายในรูปแบบแท็งก์คอนเทนเนอร์ (Tank container), แท็งก์ที่ยกและเคลื่อนย้ายได้ (UN portable tanks), และภาชนะบรรจุก๊าซแบบกลุ่ม (Multiple-Element Gas Cylinders; MEGCs) ที่มีความจุมากกว่า 3,000 ลิตร

  2. เพื่อเพิ่มทักษะในการขนส่งวัตถุอันตรายโดยใช้รถแท็งก์ยึดติดถาวร (Fixed tanks), แท็งก์ที่ยึดติดไม่ถาวร (Demountable tanks), และรถติดตั้งภาชนะบรรจุก๊าซแบบแบตเตอรี่ (Battery vehicles) ที่มีความจุมากกว่า 1,000 ลิตร

  3. เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการปฏิบัติงานขนส่งวัตถุอันตรายรูปแบบแท็งก์ให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสากล และข้อกำหนดตามกฎหมาย

  4. เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ขับรถสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งวัตถุอันตรายในรูปแบบแท็งก์

  5. เพื่อสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติงานขนส่งวัตถุอันตรายในรูปแบบแท็งก์อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น

ผู้ขับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตรายที่ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรพิเศษสำหรับการขนส่งวัตถุอันตรายในรูปแบบแท็งก์ ได้แก่

  • ผู้ขับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตรายในรูปแบบแท็งก์คอนเทนเนอร์ (Tank container) แท็งก์ที่ยกและเคลื่อนย้ายได้ (UN portable tanks) หรือภาชนะบรรจุก๊าซแบบกลุ่ม (Multiple-Element Gas Cylinders; MEGCs) ที่มีความจุมากกว่า 3,000 ลิตร

  • รถแท็งก์ยึดติดถาวร (fixed tanks) หรือแท็งก์ที่ยึดติดไม่ถาวร (demountable tanks) รถติดตั้งภาชนะบรรจุก๊าซแบบแบตเตอรี่ (Battery vehicles) ที่มีความจุมากกว่า 1,000 ลิตร

อบรมTSM
TSM30-1536x1152.jpg

หลักสูตร การอบรมบุคลากร

จัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง

TSM (Transport Safety Manager)

TSM (Transport Safety Manager) การอบรมบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง ผู้ประกอบการขนส่งและบุคลากรในสังกัด รวมถึงบุคคลที่มีความสนใจในสายงานด้านการควบคุมกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในการขนส่งทางถนน โดย TSM Transport Safety Manager มีหน้าที่หลัก 5 ด้าน ได้แก่ การจัดการรถ, การจัดการผู้ขับรถ, การจัดการการเดินรถ, การจัดการการบรรทุกและการโดยสาร และ การบริหารจัดการการวิเคราะห์และประเมินผล โดย กรมการขนส่งทางบกจะเริ่มบังคับใช้กับผู้ประกอบการขนส่งกลุ่มแรก

หลักสูตรพื้นฐาน(บุคคลทั่วไป)

สำหรับบุคคลทั่วไป อบรม 18 ชม.

บุคลากรที่รับผิดชอบด้านการจัดการความปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Safety Manager: TSM) จะต้องผ่านการฝึกอบรมและการทดสอบในหลักสูตรที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด หลักสูตรการฝึกอบรมบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งมีระยะเวลารวม 18 ชั่วโมง

ครอบคลุม 8 หัวข้อ ได้แก่:

  1. • ความปลอดภัยในการประกอบการขนส่ง

  2. • กฎหมายเกี่ยวกับการประกอบการขนส่ง

  3. • การบำรุงรักษารถและการตรวจความพร้อมของรถ

  4. • การจัดการพนักงานขับรถ

  5. • การวางแผนและปฏิบัติการเดินรถ

  6. • ความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร

  7. • การจัดการเหตุฉุกเฉิน

  8. การวิเคราะห์และป้องกันอุบัติเหตุ

เรียนขับรถพ่วง
เรียนขับรถบรรทุก

หลักสูตรอบรมสำหรับ จป วิชาชีพ

ผู้มีประสบการณ์ 5 ปี

สำหรับจป.วิชาชีพ หรือ ผู้ประกอบการด้านขนส่ง

ที่มีประสบการณ์ 5 ปี อบรม 6 ชม.

บุคลากรที่จัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Safety Manager: TSM) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน หรือผู้ที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการด้านการขนส่งไม่น้อยกว่า 5 ปี จะต้องเข้ารับการอบรมหลักสูตรบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งเป็นเวลา 6 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการขนส่ง และช่วยพัฒนาระบบบริหารจัดการของผู้ประกอบการให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมาย จึงเป็นสิ่งที่ควรเข้ารับการอบรมในหลักสูตรนี้

หลักฐานการรับสมัคร และ
เรียนขับรถ
พร้อมสอบใบขับขี่

บัตรประจำตัวประชาชน

สัญชาติไทย

อายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี บริบูรณ์

ใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 1 เดือน)

เป็นแบบ 2 ส่วน

1.ผู้ประกอบการขนส่งประจำทางด้วยรถโดยสารหมวด 1 กทม. และ จังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่องและหมวด 2 รายเดิมทุกราย2. ผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถโดยสารรายเดิมที่มีรถตั้งแต่ 51 คันขึ้นไป
3. ผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถบรรทุก รายเดิมทุกรายที่มีรถขนส่งวัตถุอันตราย
4. ผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถบรรทุก รายเดิมที่มีมีรถตั้งแต่ 101 คันขึ้นไป
5. ผู้ประกอบการขนส่งส่วนบุคคลด้วยรถบรรทุกรายเดิมที่มีรถขนส่งวัตถุอัตราย ตั้งแต่ 6 คันขึ้นไป
6. ผู้ประกอบการขนส่งส่วนบุคคลรายเดิมทุกรายที่มีรถตั้งแต่ 101 คันขึ้นไป
7. ผู้ขอรับ (รายใหม่) ใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทาง และไม่ประจำทาง (ผู้ขอเป็นนิติบุคคล) ทุกราย8. ผู้ขอรับ (รายใหม่) ใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกไม่ประจำทางและส่วนบุคคลทุกรายที่มีรถตั้งแต่ 11 คันขึ้นไป

​หมายเหตุ : TSM การอบรมบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่บัดนี้เป็นไป สำหรับกลุ่มอื่นจะมีการบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2567 และ วันที 1 มกราคม 2568 ตามลำดับ

ไม่เคยถูกยกเลิกการขึ้นทะเบียนเป็นบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง ยกเว้นว่าการถูกยกเลิกนั้นผ่านมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ถูกยกเลิกการขึ้นทะเบียนครั้งสุดท้าย

bottom of page